การเดินทางในชิคาโก ส่วนใหญ่จะเดินทางกันด้วยรถไฟ ซึ่งในเมือง Chicago นั้นจะแบ่งเป็น 3 แบบ ได้แก่รถไฟที่วิ่งเชื่อมกันทั่วเมือง รถไฟที่ใช้วิ่งเชื่อมต่อกับเมืองที่อยู่รอบๆ และรถไฟที่สามารถพาเราข้ามจากฝั่งตะวันตกไปฝั่งตะวันออกได้ เรียกว่าเชื่อมถึงกันทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาเลย เรามาทำความรู้จักกับรถไฟเหล่านั้นกันเลยดีกว่า
การเดินทางในชิคาโก ด้วยรถไฟ 3 แบบ มีดังนี้
1.CTA Train
เส้นทางเดินรถไฟที่เป็นหัวใจหลักของชาวชิคาโก เชื่อมต่อทุกส่วนของเมือง เราก็ใช้บริการรถไฟ CTA ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปเรียน ไปทำงาน ไปเที่ยวเดินเล่นชมนกชมไม้ ซึ่งส่วนใหญ่เราจะใช้สาย Blue Line เพราะมันวิ่งจากหน้าบ้านเราไปได้ทั้งดาวน์ทาวน์หรือจะไปสนามบิน O’Hare ก็ได้ ที่สำคัญคือไม่เปลี่ยวและมีรถวิ่งทั้งคืนแต่ดึกมากๆ อาจจะรอนานหน่อยเท่านั้นเอง
รถไฟ CTA แบ่งเส้นทางเดินรถออกเป็น 8 สาย ดังนี้
-สายสีแดง หรือ Red Line จะวิ่งจากเหนือสุดของเมือง(Howard) ลงทิศใต้(95th/Dan Ryan) North to South ผ่านใจกลางเมืองที่เรียกว่า Downtown หรือ Loop
-สายสีน้ำเงิน หรือ Blue Line จะวิ่งจากตะวันตก(O’Hare) ทางเหนือมุ่งหน้าไปทางตะวันออก แล้ววนที่ Loop เพื่อวิ่งออกไปทางตะวันตกส่วนกลางของเมือง(Forest Park)
-สายสีน้ำตาล หรือ Brown Line เป็นเส้นทางที่วิ่งผ่านโซนเมืองทางเหนือเริ่มจาก(Kimball) ไปวนใน Loop แล้วย้อนกลับทางเดิม
-สายสีส้ม หรือ Orange Line เป็นเส้นที่วิ่งจาก South West (Midway) วิ่งวนใน Loop
-สายสีเขียว หรือ Green Line วิ่งจากตะวันตก(Harlem/Lake) ผ่าน Loop ลงไปทางใต้สุดที่ 2 สถานี (Ashland/63rd) และ(Cottage Grove)
-สายสีชมพู หรือ Pink Line วิ่งจากตะวันตก(54th/Cermak) วนผ่าน Loop กลับไปทางเดิม
-สายสีม่วง หรือ Purple Line เป็นสายเชื่อมต่อเมือง Evanston ที่อยู่ทางเหนือของชิคาโก เริ่มที่(Linden) วิ่งลงใต้ จุดเชื่อมต่อกับ Red Line คือ(Howard) แล้วสายนี้จะวิ่งด่วนลงใต้วนใน Loop ซึ่งจะจอดแค่บางสถานีเท่านั้น
-สายสีเหลือง หรือ Yellow Line เป็นสายเชื่อมต่อเมือง Skokie ที่อยู่ทางเหนือเช่นกัน เริ่มที่(Demster-Skokie) ไปสุดที่ (Howard) เชื่อมกับ Red Line
ค่าโดยสารเที่ยวละ $2.25 หรือจะจ่ายเป็นรายเดือนราคา $100 ซึ่งราคานี้เราจะใช้กี่เที่ยวก็ได้ และสามารถใช้ร่วมกับรถบัสได้
วิธีใช้ CTA Train คือ ให้จำว่าสถานีปลายทางของแต่ละเส้นคืออะไร แล้วเราจะไปทางไหน เช่น Red Line เราอยู่สถานี Washington แล้วเราอยากไป Belmont ซึ่งมันวิ่งขึ้นเหนือ ก็ให้เลือกขบวนที่เขียนว่า Howard รถไฟนี้บางสายวิ่งทั้งคืน แต่บางสายหมดเร็ว ขอให้วางแผนการเดินทางให้ดี ไม่งั้นตกรถไฟคงต้องเสียตังนั่ง Uber แทน
ข้อมูลเพิ่มเติม >>> CTA Train
มีแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นด้วยนะเออ >>> CTA : Transit Stop
การใช้แอพพลิเคชั่นคำนวณเวลาในการรอรถ มีประโยชน์มากๆ อย่างเช่นในช่วงที่อากาศหนาวหนักๆ เราไม่สามารถจะยืนท้าลมหนาวตัวแข็งเพื่อรอรถได้ แอพพลิเคชั่นก็เป็นตัวช่วยให้เรากะเวลาออกจากบ้านให้ไปทันเวลาขึ้นรถ โดยที่ไม่ต้องรอเก้อแบบที่ไม่รู้ว่าจะต้องรอไปอีกนานแค่ไหน วิธีใช้ เพียงแค่เลือกสถานี และเลือกสายรถไฟที่เรากำลังจะไป แอพก็จะแสดงผลขึ้นมาให้เรา ง่ายๆ แค่นี้เอง
2.Metra
รถไฟ Metra เป็นรถไฟมีที่นั่ง 2 ชั้น จะวิ่งรับส่งคนจากนอกเมือง เข้ามาในเมืองเป็นหลัก แต่สถานีจะไม่ติดๆกันเหมือน CTA รอบเดินรถก็ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง หรือ 1 ชั่วโมง มีทั้งหมด 11 เส้นทาง สถานีที่อยู่ใน Downtown ก็ได้แก่ Ogilvie Transportation Center, Van Buren Street, LaSalle Street, Union Station, Millennium Station
ค่าโดยสารคิดตามระยะทาง
ข้อมูลเพิ่มเติม >>> Metra
3.Amtrak
รถไฟที่วิ่งข้ามรัฐทั่วประเทศ ตัวรถไฟจะเป็นสองชั้น ที่เก๋คือเค้าจะมีคาเฟ่เล็กๆ ไว้ให้ซื้ออาหารและเครื่องดื่ม มีห้องทานอาหาร และมีห้องสำหรับชมวิว ที่เรียกว่า Observatory Room หากใครเบื่อเครื่องบินแล้วอยากมาลองนั่งรถไฟชิลๆ ก็ทำได้ เหมาะกับคนที่มีเวลาเยอะ หรืออยากจะไปแค่รัฐใกล้ๆ สถานีของ Amtrak ในชิคาโกจะอยู่ที่ Union Station มีลักษณะคล้ายๆหัวลำโพงบ้านเรา เราเคยนั่ง Amtrak จากชิคาโก ไปแคลิฟอร์เนีย ใช้เวลาแค่ 51 ชั่วโมง 20 นาที หรือประมาณ 3 วัน 2 คืน เท่านั้นเอง ราคาอาจจะพอๆกับเดินทางด้วยเครื่องบิน แต่อารมณ์ที่ได้มันต่างกันค่า
ค่าโดยสารคิดตามระยะทาง ถ้าจองล่วงหน้าราคาจะถูกลง
ข้อมูลเพิ่มเติม >>> Amtrak
การเดินทางในชิคาโก ด้วยรถไฟสะดวกสบายมาก ไปได้ทั่วทุกที่และมีหลากหลายแบบให้เลือก แล้วแต่ว่าอยากจะไปไหน
อยากรู้เรื่องราวของเมืองชิคาโกและอเมริกามากขึ้น ตามมาที่นี่เลยจ้า
