เมืองนิวยอร์ก จัดเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญติดอันดับท็อปของโลก และเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา เราเลยขอคัดสรรที่ เที่ยวนิวยอร์ก สุดคูลมาให้ชมกัน ซึ่งนิวยอร์กซิตี้นั้นเป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของโลกอีกด้วย ใครๆต่างก็อยากจะแวะมาที่นี่ ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวเรา พอได้มีโอกาสก็ไม่รอช้ารีบมาเที่ยวพร้อมกับเพื่อนๆ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการเที่ยวในฤดูหนาวที่อุณหภูมิติดลบเราก็ไม่สน
เที่ยวนิวยอร์ก ถ้าได้มาแล้วจะติดใจ
นอกจากนี้แล้วเมืองนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายให้เลือกตามความชอบของแต่ละคนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสายกิน สายชิล สายอาร์ท หรือจะสายเที่ยวกลางคืน เรียกว่ามีพร้อมทุกอย่าง เราเลยขอคัดสถานที่ที่สายมิกซ์อย่างเราคิดว่าเด็ดมาให้เพื่อนๆชมกัน เอาล่ะเสื้อโค๊ทพร้อม รองเท้าบู๊ทพร้อมก็ลุยค่ะ
1.Brooklyn Bridge
สะพานบรู๊คลินเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างฝั่งแมนฮัตตันกับฝั่งบรู๊คลินเข้าไว้ด้วยกัน เป็นสถานที่แรกๆที่เรานึกถึงเมื่อพูดถึงเมืองนิวยอร์กเลย เพราะที่นี่ชอบปรากฏให้เห็นอยู่ในหนังดังบ่อยๆ อย่างเช่นเรื่อง Step Up หรือถ้าเราอยากจะเสิร์ชรูปเมืองนิวยอร์ก มุมนี้จะต้องขึ้นมาให้เห็นเยอะแยะตลอดเวลา เราเลยต้องขอแวะมาบ้าง และที่สำคัญเราจะไม่แค่กดชัตเตอร์ถ่ายภาพอย่างเดียวแต่เราจะเดินข้ามสะพานความยาว 486.3 เมตรนี้ด้วย ในยามที่อุณหภูมิประมาณ 0 องศาเซลเซียส และมีลมเย็นๆพัดผ่านตลอดเวลา บอกได้เลยว่า หูชาาาาจ้า
รายละเอียดเพิ่มเติม >>> สะพานบรูคลิน แลนด์มาร์คสำคัญสุดเท่ แห่ง NYC
2.Central Park
สวนสาธารณะขนาด 843 เอเคอร์ ตั้งอยู่บนเกาะแมนฮัตตันทำหน้าที่เปรียบเสมือนปอดที่ใช้สำหรับฟอกอากาศเสียให้กลายเป็นอากาศบริสุทธิ์ และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจให้กับชาวเมือง แถมยังเป็นสถานที่ที่ถูกนำไปใช้ในการถ่ายหนังมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยนะ ตอนที่เราได้แวะเข้าไปเยี่ยมชมที่นี่รู้สึกว่าไม่เหมือนสวนสาธารณะ มันเหมือนป่ามากกว่า คือมันมีต้นไม้สีเขียวทั้งต้นใหญ่ๆ และต้นเล็กปะปนกันไป มีบ่อน้ำ แถมอากาศในสวนแห่งนี้ก็มีความชื้นและความเย็นสูงกว่าอากาศด้านนอกอีก คิดดูว่าตอนที่ยังไม่ก้าวขาเข้าไปด้านในอ่ะ ก็อุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียสแล้วอ่ะ เรากับเพื่อนก็แบบ เอ้าแกพร้อมมั้ย 1 2 3 ฮึบ พอได้เข้าไปปั๊บก็ตัวสั่นเลย และยังต้องดูแผนที่ไปด้วย เพราะไม่อย่างนั้นหลงทางแน่ๆ
Location : ถนน 59th ถึง 110th Street, Manhattan Borough, from Central Park West to 5th Avenue, New York City, NY 10022
เวลาทำการ : 6:00 AM – 1:00 AM
รายละเอียดเพิ่มเติม >>>เซ็นทรัลพาร์ค สวนสาธารณะ สุดเก๋ในมหานคร นิวยอร์ก
3.Cooper Hewitt, Smithsonian Design Museum
สายอาร์ทอย่างเรามาถึงนิวยอร์กก็ต้องขอเข้ามิวเซียมซักหน่อยเนาะ พิพิธภัณฑ์คูเปอร์ฮิววิท นี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เน้นเรื่องงานออกแบบเป็นพิเศษ อยู่ภายใต้การดูแลของ Smithsonian Institution ตั้งอยู่บริเวณ Upper East Side ของเกาะแมนฮัตตัน ย่านที่เรียกว่ามีแต่คนรวยมากๆมาอยู่กัน เพื่อนๆน่าจะคุ้นเคยกับย่านนี้เพราะเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีย์ดังเรื่อง Gossip Girl กลับมาที่เรื่องของเรา เมื่อเพื่อนบอกว่าอยากมาที่นี่ เราก็ตามๆเค้ามาซึ่งเราเป็นคนที่ไม่เคยมีข้อมูลอะไรเลย อยากพาไปไหนก็ไป พอมาถึงและได้เข้าไปเยี่ยมชมด้านใน โห เราชอบมากเลยอ่ะ มีทั้งงานสิ่งพิมพ์ตั้งแต่ยุคเก่าก่อน งานสถาปัตยกรรม งานเฟอร์นิเจอร์ และที่สำคัญคือเค้าจะให้อุปกรณ์สุดเท่ชิ้นนึงกับทุกคนที่เข้ามาในพิพิธภัณฑ์นี้ เราขอเล่ารายละเอียดในพาร์ทถัดไปละกันนะ ยังงัยก็แล้วแต่เราขอแนะนำว่าคนที่เรียนมาสายออกแบบไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
Location : 2 E 91st St, New York, NY
เวลาทำการ : 10AM–6PM
รายละเอียดเพิ่มเติม >>> พิพิธภัณฑ์ Cooper Hewitt
4.Museum of Modern Art (MOMA)
พิพิธภัณฑ์ MOMA หรือชื่อเต็มว่า Museum of Modern Art นี้ตั้งอยู่บริเวณ Midtown แมนฮัตตัน เป็นสถานที่เก็บรวบรวมงานศิลปะในยุคโมเดิร์นจากทั่วโลกเอาไว้มากมาย มีทั้งผลงานศิลปะที่ตั้งถาวรและมีนิทรรศการดีๆผลัดเปลี่ยนกันมาให้ชมทั้งปี นอกจากจะมีชิ้นงานศิลปะแล้วที่นี่ยังมีร้านขายของที่ระลึกขนาดใหญ่และร้านขายหนังสือเกี่ยวกับงานศิลปะให้เราเลือกเสียเงินอีกด้วย
Location : 11 West 53 Street, New York, NY
เวลาทำการ : 10.30 AM–5.30 PM
ค่าเข้าใช้บริการการ $25 ส่วนใครที่มีบัตรนักเรียนก็จ่ายเพียงแค่ $14 เท่านั้น
รายละเอียดเพิ่มเติม >>> MOMA
5.The High Line
ที่นี่เป็นสวนสาธารณะที่เพิ่งเปิดใช้ได้ไม่กี่ปีนี้เอง จุดเด่นของ The High Line คือเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้าที่พัฒนามาจากทางเดินรถไฟสายเก่าที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ทางผู้ดูแลเลยปรับทัศนียภาพของที่นี่ใหม่ เปลี่ยนพื้นที่เก่าๆ รกๆ ให้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวที่ถูกจัดวางได้อย่างลงตัว มีมุมให้นั่งชมวิวพักกายพักใจอยู่ตลอดเส้นทาง และยังมีวิวจากมุมสูงให้ดูอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นถ้าเราเดินตามเส้นทางไปเรื่อยๆ ก็จะไปเจอกับแม่น้ำฮัดสันที่เป็นแม่น้ำสายหลักของเกาะ แมนฮัตตันอีกด้วยนะ สดชื่นและรื่นรมย์จริงๆ (แต่พอเป็นหน้าหนาวมันก็จะหน้าชา หน่อยๆ)
Location : เริ่มต้นที่ถนน Gansevoort Street ในย่าน Meatpacking จนถึงถนน West 34th Street ตัดกับถนน 10th และ 12th Avenues.
เวลาทำการ : 7AM–10PM
รายละเอียดเพิ่มเติม >>> The High Line สวนสาธารณะลอยฟ้า
6.Time Square
Time Square เป็นแยกที่มีความคึกคัก เป็นสถานที่ใช้สำหรับการโฆษณาสินค้าที่ดังที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาแวะเวียนอยู่เสมอ มีทั้งแหล่งช็อปปิ้งและมุมถ่ายรูป ใครมาถึงนิวยอร์กก็ต้องมาเจิมที่นี่ กดชัตเตอร์ซักทีสองที และแน่นอนว่าวิวก็คือป้ายโฆษณาของแบรนด์ต่างๆที่มีอยู่ทั่วบริเวณนี้เอง (ช่วงที่เราไปคือแบบมีป้ายโฆษณาที่เป็นภาษาจีนอยู่หลายอันเลย เลยแอบคิดว่าเอ๊ะที่นี่นิวยอร์กหรือฮ่องกงกันแน่ งงจัง) จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมค่าเช่าพื้นที่โฆษณาในบริเวณนี้จะมีราคาสูงลิ่ว ส่วนช่วงที่ฮ็อทที่สุดของไทม์สแควร์ก็คงจะไม่พ้นช่วงปีใหม่ ที่คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างหลั่งใหลกันมาเคาท์ดาวน์กันที่นี่ ถือว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญเลยทีเดียว ใครที่อยากจะมาสัมผัสบรรยากาศข้ามปีที่นี่ก็ขอแนะนิดนึงว่าต้องมารอกันตั้งแต่หัววันและห้ามไปไหนไม่งั้นก็จะไม่ได้พื้นที่นับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ที่ดีที่สุด
Location : ทางแยกถนน Broadway และถนน 7th Avenue ช่วงถนน 42nd ยาวไปจนถึง 47th Streets
เวลาทำการ : ทั้งวัน
รายละเอียดเพิ่มเติม >>> Time Square
7.Williamsburg
วิลเลี่ยมส์เบอร์กเป็นย่านชุมชนที่อยู่ทางฝั่งบรู๊คลิน ในช่วงปลายยุค 90s พื้นที่บริเวณนี้ก็ได้กลายมาเป็นย่านฮิปสเตอร์ มีงานอาร์ทให้เห็นอยู่ทั่ว รวมไปถึงบาร์แนวอินดี้ และอาร์ทแกลเลอรี่มากมาย ในช่วงแรกๆที่ค่าเช่ายังไม่สูงมาก ทำให้กลุ่มวัยรุ่นสามารถเช่าที่แล้วสร้างธุรกิจของตัวเองได้ ในย่านนี้เรียกว่ามีทุกอย่างครบตั้งแต่ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเสื้อผ้า เครื่องประดับ ร้านเสื้อมือสอง ร้านแว่น แต่ราคานี่ไม่เบาเลย ถ้าอยากได้จริงๆก็ต้องยอมจ่ายอ่ะเนอะ เพราะเค้าบอกว่ามันเป็นงานแฮนด์เมด ร้านส่วนใหญ่จะตั้งกระจายๆกันอยู่ตามซอยนั้นซอยนี้ แต่ก็จะมีโซนที่มีร้านกระจุกตัวเดินช็อปปิ้งกันได้เพลินๆเลยก็คือถนน Bedford N 3rd ถึง N 11st และที่สนุกไปกว่านั้นอีกก็คือในช่วงหน้าร้อนเค้าจะมี Flea Market หรือตลาดนัดกลางแจ้งตั้งแผงขายกันบริเวณริมแม่น้ำชิลๆด้วย เก๋ป่ะล่ะ
ขอแนะนำนิดนึงว่าร้านส่วนใหญ่ปิดวันจันทร์นะจ๊ะ
Location : ถนน Bedford N 3rd ถึง N 11st
รายละเอียดเพิ่มเติม >>> Williamsburg
8.Flatiron Building
ตึกนี้ก็เป็นแลนด์มาร์คสำคัญแห่งหนึ่งของนิวยอร์คที่ไม่ควรพลาด เค้าเรียกกันว่าเป็นตึกทรงเตารีดเพราะด้วยรูปทรงที่เป็นสามเหลี่ยมนั่นเอง มีความสูงทั้งหมด 22 ชั้น สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1902 เป็นตึกที่เราว่ามันถ่ายรูปยากมาก เพราะรูปทรงแปลกๆของมันเนี่ยล่ะ แต่ยิ่งดูก็ยิ่งมีสเน่ห์ ตัวตึกเป็นสไตล์เรอเนสซองส์ผสมผสานกับแบบ Beaux-Arts ดูมีความคลาสสิคเหนือกาลเวลามาจนทุกวันนี้ ส่วนรอบๆบริเวณนี้ก็มีทั้งร้านขายของที่ระลีก ร้านเลโก้ ร้านคาเฟ่ ให้ได้เลือกตามชอบ
Location : 175 5th Ave, New York, NY
รายละเอียดเพิ่มเติม >>> Flatiron Building
9.New York Public Library
ที่นี่ก็เป็นหอสมุดประชาชนแห่งเมืองนิวยอร์ก และเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังดังอย่างเรื่อง The day after tomorrow ทุกอย่างด้านในยังคงความคลาสสิคเอาไว้ มีส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์เก็บบันทึกเรื่องราวของการทำหนังสือ และวงการอุตสาหกรรมการพิมพ์เอาไว้ให้ผู้ที่สนใจมาหาความรู้ด้วย ส่วนสำคัญที่จะขาดไม่ได้ก็คือโถงขนาดใหญ่และชั้นวางหนังสือที่ทำไว้ให้ชาวเมืองนิวยอร์กมานั่งอ่านหนังสือเพิ่มเติมความรู้กัน แถมยังมีนิทรรศการหมุนเวียนจัดให้ชมกันตลอดทั้งปี ข้อดีอีกอย่างที่ทำให้คนสามารถแวะมาได้ง่ายคือสถานที่ที่ตั้งอยู่บนถนน 5th Ave ใกล้กับสถานที่สำคัญหลายๆแห่งในเมืองนิวยอร์ก เรียกว่าถ้าจะนั่งรถไฟไปแวะแลนด์มาร์คยังงัยก็ต้องผ่านบริเวณนี้
Location : 476 5th Ave, New York, NY
เวลาทำการ : 10AM–7.45PM
รายละเอียดเพิ่มเติม >>> New York Public Library
สรุป
การจะ เที่ยวนิวยอร์ก นั้นสามารถมาเที่ยวได้ทั้งวันทั้งคืน และมาเที่ยวได้ทุกฤดูเลย ถ้าอยากชิลหน่อยช่วงฤดูใบไม้ร่วง ระหว่างเดือนตุลาคม ถึงธันวาคมน่าจะดีที่สุดนะ อากาศเย็นกำลังดี แถมยังมีที่เที่ยวทุกอย่างทุกแนวให้เลือกตามสไตล์ของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นมิวเซียม สวนสาธารณะ ย่านช็อปปิ้ง แหล่งรวมอาร์ทติส ชาวอินดี้ทั้งหลาย และยังมีวัฒนธรรมของคนทั้งโลกมารวมกันอยู่ที่นี่ด้วย เอาเป็นว่ามันสนุกมากๆเลย
ถ้าชอบบทความนี้อย่าลืมติดตามมาเป็นกำลังใจให้ใน Facebook DayinUS ด้วยน้า รักทุกคนเลยค่ะ
อยากรู้ เรื่องราวในอเมริกา เพิ่มเติมตามมาที่นี่ได้เลยจ้า