Camping @Under the Canvas, Yellowstone

0
3130
Under_The_Canvas

Under The Canvas ที่พักสุดน่ารัก ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมกลางธรรมชาติอันสวยงามและสดชื่นอยู่ใกล้กับทางเข้า อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ลักษณะเด่นของที่นี่คือที่พักทรงกระโจมสีขาวสุดหรู มาพร้อมกับเตียงนุ่มๆ ผ้าห่มอุ่นๆ ที่จะเปลี่ยนภาพความทรงจำของการ Camping แบบเดิมๆ

ที่ต้องกางเต๊นท์เตรียมถุงนอนนอนที่พื้น ใช้ชีวิตแบบลำบากลำบนไปเลย ทุกคนจะได้ฟินกับความสะดวกสบายในการพักผ่อนแบบครบครันและไม่รบกวนธรรมชาติ ตอนนี้ Under The Canvas เปิดให้บริการอยู่ 5 แห่ง ตั้งอยู่ตามอุทยานแห่งชาติในฝั่ง West ของอเมริกา และในแต่ละที่ก็จะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ปีละ 4-5 เดือนเท่านั้น เนื่องด้วยข้อจำกัดของสภาพอากาศที่เย็นเกินไปอาจจะทำให้การมาพักผ่อนไม่สะดวกเท่าที่ควร

near yellowstone

ทริปนี้เราตั้งใจจะไป Finding Nature กันในป่า Yellowstone ซึ่งจะใช้เวลาทั้งหมด 6 วัน ลางานยาวๆไปค่ะ โดดเรียนด้วย 1 วัน แผนการเดินทางทั้งหมดเพื่อนเราเป็นคนจัด นี่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย อยากพาไปไหนก็ไป หลังจากที่เครื่องบินแลนดิ้งที่ Salt Lake City, Utah แล้ว พวกเราก็เริ่มการเดินทางด้วยการเช่ารถ Minivan ขนาดกำลังดีเป็นแบบประตูสไลด์ด้วย เพื่อความสะดวกในการขึ้นลง ขับรถยาวๆประมาณ 5 ชม. มาจนถึงที่พักของคืนแรกและคืนที่สอง นั่นก็คือ ที่นี่ Under The Canvas, Yellowstone

ตอนที่ไปถึงเพื่อนก็จอดรถที่บริเวณทางเข้าด้านหน้า เราลงจากรถออกไปสูดอากาศสดชื่นข้างนอก ขอเดินสำรวจพื้นที่กันซักหน่อย แล้วเราก็คิดว่ามันใช่หรอว้า ไม่เห็นมีอะไรที่จะเอาไว้นอนค้างได้เลย แต่พอลองใช้สายตาแบบยาวๆมองอีกทีก็เจอ เต๊นท์สีขาวตั้งอยู่ลิบๆ โอเค รอดละคืนนี้

พื้นที่รอบๆบริเวณนี้มีลักษณะเป็นลานหญ้าสีเขียวกว้างๆ มีขอบรั้วไม้แบ่งอาณาเขตระหว่างฟาร์มและถนน มีฟาร์มม้าที่เลี้ยงม้าเป็นสิบๆตัว เดินกระจายกันเล็มหญ้าสะบัดหางไปมาตามอัธยาศัย ดูมีความสุขกันมาก และมีฉากหลังเป็นทิวเขาสวยๆ สลับกันไปมา บวกกับอากาศที่อุณหภูมิกำลังดี ไม่ร้อนและไม่เย็นจนเกินไป หูย มันดีอ่ะ

บริเวณด้านหน้าที่พักไม่ไกลจากจุดจอดรถเมื่อกี๊ มีร้านอาหารสไตล์อเมริกันชื่อว่า Bar-N-Ranch เราเดินแวะไปดูซักหน่อย ร้านน่านั่งมาก คนแน่นร้านเลยเชียว ด้านในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ และสัตว์สต๊าฟให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กลางป่าเลย นี่เป็นภาพที่เราชะเง้อมองจากด้านนอกเท่านั้นนะ คิดว่าน่าสนใจดี

ลูกค้าที่มาทานอาหารก็น่าจะเป็นแขกที่มาพักที่นี่ซะเป็นส่วนใหญ่ เราลองเปิดเมนูอาหารที่วางอยู่หน้าร้านดู อาหารที่มีขายจะเป็นพวกสเต๊ก สลัด และแฮมเบอร์เกอร์ ราคาเริ่มที่จานละ $20 ซึ่งยังไม่รวม Tax และ Service Charge ว่าจะลองซักหน่อย โอเค บาย แพงไปนิด

under the canvas5

ที่พักที่นี่เน้นความเป็นธรรมชาติ ให้ทุกคนมาหาความสงบกัน เพื่อนเราจองกระโจมแบบ Safari มีเตียงให้ 4 เตียง ที่มีผ้าห่มหนาๆและเตียงนุ่มๆอย่างดี แต่ที่ไม่ดีคือไม่มีฮีทเตอร์ ถ้าอากาศดรอปมากๆ ก็คงหนาวสั่นกันไปเลยยยย ไม่มีห้องน้ำส่วนตัว แต่มีห้องน้ำรวมแบบดูดี ทำเป็นไม้ๆ น่าใช้ ซึ่งมีเพียงแค่ 5 ห้องเท่านั้น จะใช้ทีก็รอคิวกันนานนิดนึง มีตะเกียงเอาไว้ให้แสงเบาๆ 2 อันในห้องนอน

ส่วนด้านนอกจะมีแค่แสงรำไรๆจากส่วนกลางเท่านั้น แต่เรื่องนี้ก็ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่เพราะกว่าจะมืดก็ 3 ทุ่มละ (หน้าร้อนเวลากลางวันพระอาทิตย์จะตกช้ากว่าหน้าหนาว) หากต้องการเดินไปหยิบของที่รถหรือไปไหนไกลๆ ก็ต้องพกไฟฉายไปด้วย เพราะระหว่างทางที่เป็นพื้นหญ้า ไม่รู้ว่าเราจะเจออะไรอย่างอื่นรึเปล่า และอีกเรื่องคือกลัวจำทางกลับเต๊นท์ไม่ได้

under the canvas4

มาดูส่วนของ Lounge มั่งดีกว่า เค้าสร้างเป็นกระโจมใหญ่สุดไว้นั่งชิลได้ทั้งคืนเก๋ๆ มี Wifi ฟรีให้ใช้ และสามารถจิบชากาแฟได้ตามอัธยาศัย ด้านในมีโซฟาหนังตั้งอยู่ข้างเตาผิงอุ่นๆ และมีโต๊ะเอาไว้รองรับเวลาเด็กๆมาเล่นบอร์ดเกมส์ และที่สำคัญสามารถเอามือถือ กล้อง หรืออื่นๆมาชาร์ทแบตทิ้งไว้ได้เลย โดยไม่ต้องกลัวหายหรือสับสน เพราะเค้าทำที่ชาร์ทแยกเป็นช่องๆสี่เหลี่ยมเหมือนช่องเก็บบิล

มีการให้หมายเลขไว้ และมี Staff คอยเฝ้าตลอดเวลา เราลองไปนั่งที่โซฟาหนังข้างเตาผิง อยากจะได้ไออุ่นบ้างแต่ปรากฎว่ามันก็ยังเย็นอยู่ดี เพราะเต๊นท์ของ Lounge นี้ เค้าเปิดทางเข้าเอาไว้ทั้ง 2 ด้านเลย ทำให้ลมเย็นๆพัดผ่านเข้ามาได้ตลอดเวลา

ส่วนด้านนอกของ Lounge มีเก้าอี้ และโต๊ะเอาไว้นั่งชิลแบบเอาท์ดอร์ เราเลยไปลองนั่งบ้างอยากชิล จิบชาร้อนสวยๆ ชมวิวป่า เขา ท้องฟ้า นั่งมองฟ้าเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆจากสีฟ้า เป็นสีม่วง สีส้ม ชมพู ก้มลงมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ ตอนนั้นก็เป็นเวลา 8.30 pm หรือ 2 ทุ่มครึ่ง หืม อะไรนะ พระอาทิตย์เพิ่งจะลับขอบฟ้า แล้วพระจันทร์ก็ขึ้น เฮ่ย มันสวยมาก ดวงกลม สว่างสดใส เห็นเต็มดวง มองบนฟ้ามีดาวประปราย

พอนั่งไปได้ซักพัก หนาวอ่ะ ไม่ไหวละ อากาศกำลังชิลเลยแต่ปัญหาคือลมมันแรงไป๊ ยิ่งดึกอากาศก็ยิ่งเย็น กลางวัน 16 องศาเซลเซียส พอมืดก็ต่ำลงเหลือประมาณ 8 องศาเซลเซียส เลยทำให้ชิลนานไม่ได้ ตัวเริ่มสั่นทั้งๆที่ยังใส่เสื้อคลุมและกางเกงขายาว แต่วิวดีมากๆมองไปข้างหน้าก็เห็นภูเขาลิบๆ เป็นแนวยาวๆ บอกได้คำเดียวว่าฟินนนน

มาว่ากันด้วยเรื่องอาหารเย็นดีกว่า เนื่องด้วยว่าเราเป็นแก๊งค์คนไทย เพราะฉะนั้นสเต๊กหรือเบอร์เกอร์นั้นเราไม่สน เรามีสเบียงของเรามาเอง ซึ่งพี่ที่มาด้วยกันเป็นตัวจริงเรื่อง Camping เค้าเตรียมมาพร้อมมากทั้งหมูยอ หมูหยอง ไข่ มาม่า ปลากระป๋อง ผักกาดดอง เตาปิคนิคอันเล็กและแก๊สกระป๋อง มื้อเย็นของวันแรกเราไปต้มมาม่ากันที่เรือนรับรองด้านหน้าที่อยู่ไม่ไกลจากร้านอาหาร ซึ่งเค้าบอกว่าเป็นบริเวณที่สามารถทำกับข้าวได้ มีเตาไมโครเวฟ และเตาย่างบาร์บีคิว เมื่อใช้เสร็จก็ต้องเก็บล้าง และทิ้งขยะให้เค้าด้วย พวกเราก็ใช้สถานที่นี้ในการปาร์ตี้มาม่ากินกันอย่างเอร็ดอร่อย

มื้อเช้าวันต่อมาเป็นเมนูข้าวต้มกุ๊ย ต้มข้าวผสมกับน้ำ กินกับอาหารกระป๋องที่มี  ทีเด็ดคือเราทำกับข้าวกันในกระโจมเลย (แต่เค้ามีข้อห้ามนะ ว่าไม่ให้ทำกับข้าวในที่พัก) ต้องขอโทษจริงๆ จุดที่เค้าให้ไปทำอาหารคือต้องขับรถออกไป มันลำบากพวกเราไปนิดอ่ะนะ เรานั่งรอจนข้าวแฉะได้ที่ก็รีบตักกินเลยในทันที หูย ข้าวต้มร้อนๆแบบไทยที่คิดถึงมานานกับบรรยากาศเย็นๆ จะมีอะไรดีไปกว่านี้อีกล่ะ

under the canvas3

อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน4

อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน3

อ้อ ลืมบอกไปว่านอกจากที่นี่จะเป็นที่พักแล้ว เค้ายังมีกิจกรรมไว้ให้เล่นเยอะแยะเลย ไม่ว่าจะเป็นการพายเรือคายัค ล่องแก่ง ขี่ม้า ปั่นจักรยานภูเขา เล่นกิจกรรมแอดเวนเจอร์ในโซนสวนสนุก จะไปส่องสัตว์ หรือจะไปตกปลา ก็มีมาบริการ ซึ่งค่าใช้จ่ายไม่รวมกับที่พักนะ

 

ขอสรุป Under the Canvas, อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน อย่างสั้นๆตามนี้

-ที่พักดี อุ่นสบายเว่อร์ เตียงก็นุ่มหลับดีมากพูดเลย สบายมากจนไม่อยากจะคิดถึงอีก 2 คืนข้างหน้าที่ต้องไปกางเต๊นท์พักกลางป่าของจริง คิดแล้วก็ขนลุกกกก

-ห้องน้ำรวมสะอาดใช้ได้ มีน้ำอุ่นให้ใช้แต่มีห้องน้อยไปหน่อย ช่วงเช้ากับช่วงเย็นคนจะเยอะเป็นพิเศษ ต้องรอคิวนาน  แต่ห้องน้ำค่อนข้างแคบและเล็กไปนิด

-บรรยากาศดีมาก อากาศสดชื่นสุดๆ วิวดี โล่ง โปร่งสบาย เหมาะกับการพักผ่อนปลดปล่อยความคิดแย่ๆให้ลอยหายไป

-สิ่งที่คววรพกมาเองคือน้ำ และอาหาร อยากกินอะไรแบบไหนเตรียมมาเองเลย แถวนี้ไม่ค่อยมีร้านอาหารซักเท่าไหร่ ซึ่งที่มีก็จะเป็นร้านอาหารสไตล์ฝรั่งและราคาค่อนข้างแพง ซื้ออาหารเตรียมเอาไว้เองก็สะดวกดี

-ถ้าใครพกอาหารที่ปรุงสุกมาด้วยแล้วอยากจะเก็บไว้กินในมื้อเช้า บอกก่อนว่าไม่มีตู้เย็นนะจ๊ะ แต่สามารถวางไว้ในอุณหภูมิห้องตอนกลางคืนได้ เพราะอากาศค่อนข้างเย็น

-ราคาสำหรับที่พักแบบ Safari อยู่ที่คืนละ $194 อันที่จริงแล้วเค้าให้พักได้แค่ 4 คน แต่สมาชิกของเรามีทั้งหมด 8 คน ผู้ใหญ่ 6 เด็กน้อย 2 เบียดๆกันนอนนิดนึง ก็จัดว่าโอเคอยู่

Location : 890 Buttermilk Creek, West Yellowstone, Montana 59758

รายละเอียดเพิ่มเติม >>> https://www.undercanvas.com/

Bar N Ranch >>> http://bar-n-ranch.com/dining/

อยากรู้ เรื่องราวในอเมริกา เพิ่มเติมตามมาทางนี้เลยจ้า