ใครๆก็อยาก ไปอเมริกา ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งเสรีภาพ ต้อนรับคนทุกเชื้อชาติ ให้อิสระทางความคิด ให้โอกาสคนจากทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นคนไทย จีน เวียดนาม โปแลนด์ ยูเครน อินเดีย ปากีสถาน และอื่นๆอีกมากมายให้ได้ไปมีชีวิตใหม่อีกครั้ง
- เราอยากเห็นโลกที่มันกว้างขึ้นไม่ใช่แค่การไปเที่ยวแป๊บๆ แล้วก็กลับบ้าน แต่อยากลองไปใช้ชีวิตในที่ไกลๆดู ซึ่ง อเมริกา ก็จัดว่าไกลจากเมืองไทยพอสมควรประมาณ 13,888 กิโลเมตร หรือเท่ากับ8,630 ไมล์ เอาง่ายๆก็คนละซีกโลก ถ้าอยากจะไปมาหากันก็ใช้เวลาเพียง 16 ชั่วโมงเท่านั้น จึงนับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว
- รู้สึกเบื่อกับชีวิตซ้ำซากในเมืองกรุง เบื่อรถติด เบื่อการก่อสร้างที่ไม่มีวันจบสิ้น เบื่อกับทุกๆอย่าง เราเลยคิดว่าควรหาสิ่งใหม่ๆที่เร้าใจให้กับชีวิตดูบ้าง เงินเก็บที่มีจึงถูกนำมาใช้ในการส่งออกตัวเองไปพบโลกข้างนอก
- อเมริกาเป็นประเทศในแถบตะวันตก ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เพราะฉะนั้นมันคงไม่ยากเกินไปที่จะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ และอีกเรื่องคือเราอยากจะสัมผัสอารมณ์บรรยากาศบ้านเมืองที่เหมือนในหนังฝรั่งบ้าง เลยเลือกไปอยู่ซะเมืองหนาวอย่างชิคาโก ซึ่งก็ไม่คิดว่าชีวิตจะพีคขนาดนั้น หนาวแบบตายได้ หนาวมันแปดเดือนเลยพอใจมั้ย
- อยากพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ถึงแม้ว่าตอนที่ไปจะพอสื่อสารรู้เรื่องอยู่แล้ว ตอนสัมภาษณ์แทบจะไม่ผ่าน เพราะดันกระแดะตอบคำถามเจ้าหน้าที่เป็นภาษาอังกฤษ แต่สิ่งที่เขียนบอกว่าจะไปทำอะไรที่นั่นคือ ไปเรียนภาษา เค้าก็เลยสงสัย เมื่อได้ไปเรียนจริงๆผ่านไปหนึ่งปี ก็พบว่าได้ผลลัพธ์ค่อนข้างเป็นที่ไม่น่าพอใจ เพราะเราเอาเวลาส่วนใหญ่ไปเทให้กับการทำงาน เรื่องภาษาดีขึ้นเพียงแค่ 20% เท่านั้น การฟังดีขึ้นเยอะ การพูดเรียกว่าแถได้น้ำไหลไฟดับ ส่วนเรื่องแกรมม่านี่ไม่ไหวเลย แต่สิ่งที่มาเต็มคือความกล้า ความมั่นใจ ได้ไม่ได้ไม่รุแต่กุต้องรอด การอ่านโอเค ส่วนเรื่องเขียนคือพังมาก ต้องยอมรับ ณ จุด จุดนี้
- เพราะมีเพื่อนที่ใช้ชีวิตที่นั่นมานาน สามารถเป็นที่พึ่ง ที่ปรึกษาให้เราได้ และยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ทิ้งเราเด็ดขาด ทำให้เราคิดว่าเราคงจะอยู่รอดไม่เคว้งคว้างตราบใดที่มีเพื่อนเลิฟคนนี้ ถึงแม้ว่าตอนตอบคำถามระหว่างสัมภาษณ์ยื่นขอวีซ่า จะต้องยืนกรานหนักแน่นว่าไม่รู้จักใครใดๆทั้งสิ้น ไม่มีญาติหรือเพื่อนสักคนในประเทศอเมริกา ไปอยู่คนเดียวจริงจริ๊ง ซึ่งเพื่อนกำชับและย้ำหลายรอบว่ามันสำคัญมาก เป็นคำถามชี้เป็นชี้ตายเลยว่าจะได้ไปต่อหรือไม่
- เป็นประเทศที่สามารถทำงานได้ ข้อนี้เรียกว่าเป็นใจความสำคัญเลย กะว่าไปแล้วต้องรวยแน่ๆ เลยยอมทิ้งทุกอย่าง ยอมจากครอบครัวมาสู้ชีวิตคนเดียว งานหนักแค่ไหนก็ไม่กลัว แล้วผลลัพธ์คืออะไร คือการที่ใช้ชีวิตแบบวันต่อวัน รายได้แบบงานฟรีแลนซ์ วันไหนทำก็ได้ วันไหนหยุดก็ไม่มีเงิน ทำให้คิดว่า เออ อันที่จริงแล้วชีวิตแบบมนุษย์เงินเดือนในเมืองไทยก็ไม่ได้แย่นะ มีรายได้แน่นอน มีวันหยุดทุกเทศกาล แถมยังแอบลาแบบเนียนๆได้อีก เมื่อมีรายได้ก็ต้องมีรายจ่าย ทุกเดือนเงินสองในสามจากรายได้ที่หามาจะต้องถูกนำไปจ่ายค่าเทอม ค่าบ้าน ค่ากิน ค่าโทรศัพท์ ช็อปปิ้ง และส่วนที่ต้องเหลือเก็บที่กะเอาไว้ว่าจะรวยแน่ๆ ก็เอาไปเที่ยวหมดจ้า สรุปแล้วไม่เหลืออะไรเลย แต่ได้ประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วกลับมาแทน
- เป็นประเทศที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีความหลากหลายทางธรรมชาติและวัฒนธรรมมากๆ เรียกว่าขอวีซ่าครั้งเดียว เที่ยวได้ตั้งแต่ทะเลทรายยันภูเขาหิมะ และจากที่ได้ไปสัมผัสมาก็ชอบทุกที่ที่ได้ไปเลย มันสุดยอดมาก เหมาะกับสายเที่ยวอย่างเราที่วันๆเอาแต่คิดว่า ทริปต่อไปที่ไหนดี
ใครที่มีความคิดอยากจะ ไปอเมริกา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ไปเรียนภาษา ไปเรียนโท ไปเที่ยว ไปใช้ชีวิต แนะนำว่าไปเถอะ อย่าลังเลเลย แต่สิ่งที่จะเป็นตัวกำหนดว่าทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็มีแต่ตัวเราเท่านั้น อยากได้ชีวิตแบบไหนก็ทำ ลุย!
อยากรู้ เรื่องราวในอเมริกา เพิ่มเติมตามมาที่นี่เลยจ้ะ