Coldplay, Chicago และพายุ

0
3502
Coldplay ชิคาโก

เมื่อ Coldplay วงร็อคในตำนานระดับแถวหน้าของโลกได้แวะเวียนมาเปิดคอนเสิร์ตที่เมือง Chicago แล้วเราเองก็อยู่เมืองนี้มานานแรมปี เลยอยากจะมีโมเม้นว่าได้ไปสนุกในคอนเสิร์ตกับเค้าบ้าง เราก็นัดแนะกับเพื่อนสาวว่า เราต้องไปดูขุ่นพ่อให้ได้ พอเห็นตารางวันแสดงคอนเสิร์ตและราคาแล้วก็โอเคอยู่สู้ไหวๆ จัดค่ะ ให้เพื่อนจองให้ พร้อมบอกว่าเจ้ไม่ซีเรียสเรื่องที่นั่งนะ เอาแบบถูกๆ ขอแค่ได้เข้าไปอินในคอนเสิร์ตก็พอละ เพื่อนจัดมาให้ที่โซนชั้น 4 ราคา $70 ซึ่งก็อยู่ในโลเคชั่นที่พอถูไถ ได้เห็นแบบไกลๆ

ตามตารางเนี่ยคอนเสิร์ตจะจัดสองวันคือวันที่ 23 และ 24 กรกฎาคม 2016 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ อาทิตย์ ของเราอ่ะจองไว้วันอาทิตย์ คิดไว้ว่าวันที่สองต้องสนุกสุดเหวี่ยงกว่าวันแรกแน่ๆ อ้อ ขอบอกนิดนึงก่อนว่าคอนเสิร์ตเอาท์ดอร์ของเมืองนี้ เค้าจะจัดกันแค่ช่วงหน้าร้อนเท่านั้นนะ ทำไมน่ะหรอ เพราะอากาศมันเย็นเกินจะบรรยาย พูดแล้วขนลุก ดูคอนเสิร์ตไปปากสั่นไปก็ไม่สนุกเนอะ อ่ะๆ กลับมาๆ พอถึงวันที่ 23 ปุ๊บ ชาวชิคาโกก็แห่กันไปร็อคกับ Coldplay เราไม่รู้หรอกว่าเค้าสนุกกันแค่ไหน รู้แต่ว่าวันนั้นวันเสาร์เราทำงานอยู่ที่ร้านอาหาร คือแบบพายุเข้าจ้ะ ช่วงเย็นๆนี่ล่ะ ห่าฝนมาเลย ตกตั้งแต่ 6 โมงยันสี่ทุ่ม คิดดู ปกติแล้วเวลาฝนตกที่ชิทาวน์เนี่ย เค้าจะตกแค่แป๊บๆ แล้วก็หยุด แต่นี่คือไม่ธรรมดา มาแรงจริงๆ พูดเลยว่าวันนั้นเป็นวันที่แย่ทึ่สุดของการทำงาน แทบไม่ได้ทิปซักดอลล่า เพราะลูกค้าก็ไม่อยากจะฝ่าพายุมากินซูชิกันขนาดนั้น

พอถึงวันที่ 24 คิวเราบ้าง เห็นว่าช่วงนี้อากาศดีไม่หนาวละ ออกจะร้อนเลยด้วยซ้ำเลยใส่ชุดใหม่ที่สั้นมาก กะว่าไปมันส์ในคอนเสิร์ตเต็มที่ แต่สิ่งที่พลาดคือไม่ได้เตรียมใจไปเจอฝน ก่อนออกจากบ้านก็เช็คแอพพยากรณ์อากาศตลอดเวลา มันก็ประเมินว่ามีเมฆมากแต่ไม่มีฝน เราก็เชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่งนะ

คอนเสิร์ตเริ่มสองทุ่ม เรานัดกะเพื่อนสาว เจอกันแถวๆดาวน์ทาวน์ตอนห้าโมงเย็น ก็เริ่มรู้สึกและว่าอากาศมันครึ้มๆเนอะ ฟ้ามันมืดมาเลย สงสัยจะหนักก็เลยแว็บเข้าซุปเปอร์มาเก็ตขอถุงพลาสติกมา 3-4 ใบ เอาไว้คลุมหัวและคลุมกระเป๋า ทำได้เท่านี้จริงๆ แล้วเราก็นั่งบัสต่อไปอีกนิดนึงจนถึง Soldier Field อะโหครึ้มมาก ฟ้าร้องโครมคราม สายฟ้าฟาดมาเป็นระยะๆ โถ่ Coldplay กุ ไม่รอดแน่ๆ เพื่อนสาวก็ให้กำลังใจกันมากบอกว่าเนี่ย เมื่อคืนรอบวันเสาร์เค้าก็ดูคอนกลางสายฝนกันนะเธ้อ แรงงงค่ะ

หลังจากที่รถบัสจอด เราก็พยายามเดินไปให้ถึงลานคอนเสิร์ตให้เร็วที่สุดก่อนฝนจะมา เหล่าแฟนเพลงเป็นพันๆชีวิตก็มุ่งหน้าไปทางเดียวกับเรา เราก็ได้แต่คิดในใจว่า เออวะ อย่างน้อยทุกคนก็ใจสู้เหมือนเรานี่แหละ ตรงจุดที่รถบัสจอดแล้วให้เดินต่อไปจนถึง Soldier Field ไกลมาก เดินธรรมดาก็ 15 นาที แล้วนี่ต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งแข่งกับฟ้าฝน ลุ้นระทึกเว่อ พอเราเดินไปได้ครึ่งทาง พายุฝนก็กระหน่ำเทลงมาทันที โชคดีที่ตรงนั้นเป็นอุโมงค์เลยมีที่ไว้กำบังฝน แต่ก็ไม่วายมีละอองฝนสาดเข้ามาบ้างเป็นระยะๆ

ระหว่างที่ทุกคนติดฝนอยู่ตรงอุโมงค์นั้นก็มีแม่ค้า พ่อค้า เดินเร่ขายเสื้อกันฝนในราคา $10 ขายกันสนุกเชียว เหมือนเรายืนอยู่ที่อิมแพ็คอารีน่าเลยทีเดียว พอฝนเริ่มซา คนก็เริ่มๆเดินต่อไปยังสเตเดี้ยมกัน เราก็ตกลงกับเพื่อนสาวว่า ไปต่อเถอะให้ถึงตรงนั้นก่อนค่อยว่ากัน ยอมเปียกค่ะ ถอดรองเท้า เดินเท้าเปล่าตากฝนเพราะกลัวรองเท้าที่เพิ่งซื้อมาพัง แล้วไอ้อากาศที่ร้อนๆ อ้าวๆมาเมื่อกี๊หายเลย ชุ่มฉ่ำสะใจเลยทีเดียว พอเดินไปถึงจุดหมายก็พบว่า อ้าว ทำไมคนแถวนี้แม่งไม่เปียกเลยวะ ทุกคนหน้าเป๊ะ ผมเป๊ะมาก เมื่อเวลาผ่านไปซักแป๊บนึงฝนเริ่มซา คนที่เดินมาทีหลังเราเค้าไม่เปียกกันเลยแม้แต่น้อย ส่วนเราก็คิดว่า เอ๊ะ แล้วเราจะเดินตากฝนมาเพื่ออะไร ผมเผิม หน้าเหน้อพังหมดละ เปียกไปทุกอณูของร่างกาย ตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่อย่างน้อยก็คิดว่าจะได้ดูคอนเสิร์ตแน่ๆ เพราะมาถึงที่ขนาดนี้แล้ว

ตอนเรายื่นบัตรให้สต๊าฟตรวจ เค้าก็จะแจก Xyloband สีขาว หน้าตาเหมือนนาฬิกาให้คนละอัน พร้อมกับเข็มกลัดเล็กๆที่ระลึกให้อีกหนึ่งอัน ส่วนบริเวณในงานก็จะมีซุ้มขายของที่ระลึกของ Coldplay มีทั้งเสื้อ หมวก กระเป๋า และโปสเตอร์ ให้เลือกซื้อกัน ในงานนอกจากจะมีบู๊ทขายของที่ระลึกแล้ว ก็ยังมีบู๊ทขายน้ำขายแอลกอฮอล และบู๊ทขายอาหารสไตล์อเมริกันเช่น ฮ็อทด็อก เฟรนช์ฟราย ไก่ทอด และอาหารจำพวกพิซซ่า สปาเก็ตตี้ ณ จุดๆนี้คือหิวมาก เพราะใช้พลังงานหมดไปกับการวิ่งหนีฝนที่ตกใส่กุคนเดียว เฮ้อ เราเลยซื้อฮ็อทด็อกมูลค่า $9 มากิน ราคานี้ถือว่าแพงม๊ากก ถ้าข้างนอกก็ขายกันแค่ $6 เท่านั้นเอง แต่ไม่เป็นไรเพื่อพี่คริส เราทำได้เสมอ

 เราเดินดูบรรยากาศรอบๆงานไปเรื่อยๆ ตอนนั้นเวลาประมาณ ทุ่มนิดๆ ฝนก็ไม่มีทีท่าจะหยุด แต่ก็ตกน้อยลงแล้ว เราก็เดินรอบๆงานระหว่างรอฝนหยุด ดูเค้าเตรียมจัดเวที เดินไปถ่ายรูปตามมุมนั้นมุมนี้ จนเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง เห็นว่าฝนหยุดตกแล้วเลยตกลงกะเพื่อนสาวว่าไปนั่งรอตรงที่นั่งตามบัตรของเราดีกว่า ที่นั่งของเราอยู่ที่เลเวล 400  เราก็เดินไต่บันไดขึ้นไปที่ชั้น 4 คิดว่าคงได้เห็นแบบไกลๆลิบๆ บัตรแถวบนสุดแน่ๆ แต่ปรากฎว่าที่นั่งโอเคอยู่ อยู่ที่แถวที่ 2 ของชั้น 4 ก็ไม่ได้สูงเกินไปนะเนี่ย พอได้ที่นั่งก็หันกลับมาสำรวจตัวเอง ส่วนที่เปียกเมื่อชั่วโมงที่แล้วคือแห้งแล้วค่ะ ผมกลับมามีวอลลุ่มได้เกือบเหมือนเดิม ดีนะที่ใส่เสื้อแบบแห้งง่ายมา เราเหลือบมองไปที่ท้องฟ้าอีกครั้งก็ยังคงหวั่นใจว่าฝนจะเทลงมาอีกรอบมั้ย เพราะท้องฟ้ายังเป็นสีส้มครึ้มๆอยู่เลย อย่าตกเลยนะพลีส เสื้อหนูเพิ่งจะแห้ง!!!

พอเวลา 9.00 PM เหล่าแฟนเพลงก็ทยอยเข้ามานั่งกันจนเต็มสเตเดี้ยม ใกล้เวลาแสดงแล้ว อากาศก็เย็นๆ ชิลๆ ได้มองบรรยากาศคอนเสิร์ตจากมุมสูงๆ มันดีเกินจะบรรยาย 9.30 ได้เวลาแสดง ไฟทุกดวงก็ดับมืดลงเหลือแต่แสงสีบนเวที แล้วเสียงเพลงก็ดังขึ้น เราก็กรี๊ดสุดเสียงเลย ได้ยินเสียงพี่คริสแล้วดีใจอย่างบอกไม่ถูก เป็นแฟนเพลงมาตั้งแต่สมัยเพลง Yellow, Scientist, In my place แล้วนี่ก็ซ้อมร้องเพลงมาทั้งอาทิตย์เลย ฟังวนมันทั้งวัน พอได้มาอยู่ ณ ตรงนี้ คือฟินมาก ส่วน Xyloband ที่ได้มาก็ใส่ที่ข้อมือซะให้เรียบร้อย ความเซอร์ไพรส์กำลังจะเกิดขึ้น ไอ้เจ้า Xyloband นี้มันไม่มีปุ่มอะไรทั้งนั้น เป็นสีขาวโล้นๆ แต่พอมีเพลงขึ้นอย่างเช่นเพลง Yellow แสงที่ Xyloband ก็จะกลายเป็นสีเหลืองเหมือนกันทั้งสเตเดี้ยม เก๋มากค่ะ ชอบอ่ะ เมื่อเปลี่ยนเป็นเพลงที่สนุกๆ ตื๊ดๆ มันก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดง เขียว เหลือง ฟ้า สลับกันไป เหมือนกำลังเต้นอยู่ในบาร์เลยทีเดียว ที่พิเศษคือเจ้า Xyloband นี้มันจะทำงานก็ต่อเมื่ออยู่ในคอนเสิร์ตเท่านั้น ถ้าเอากลับบ้านก็ไม่ต่างอะไรจากที่ทับกระดาษเลย

การที่ได้มาฟังพี่คริสมาร้องเพลง Yellow แบบ Live นี่มันดีจริงๆว่ะ และเมื่อพี่คริสร้องเพลง Fix you ความรู้สึกมันมาแบบซึ้งข้างในจนขนลุก จริงๆเราไม่คุ้นกับเพลงนี้ แต่หลังจากได้ฟังแบบสดๆ ก็เก็บเอาไปเปิดฟังซ้ำเรื่อยๆ ที่บ้าน ฟิน คุ้มมากคอนนี้ งานจบตอน 5 ทุ่มครึ่ง กว่าจะต่อคิวขึ้นรถไฟถึงบ้านก็นู่น ตี 1 กว่าๆ

วันนี้มีความสุขมากจริงๆ ถึงจะเจอพายุฝนหนักขนาดนั้น ตัวเปียกขนาดนั้น แต่เราก็ยังสนุก เพราะเราไม่ได้เปียกคนเดียว มีเพื่อนที่ไปด้วยกัน และเพื่อนๆร่วมคอนเสิร์ตที่ตัวเปียกเหมือนกับเราแต่ก็ไม่มีใครโวยวายอะไรซักคำ และยังสนุกไปกับคอนเสิร์ตที่เต็มอิ่มขนาดนี้อีก มันดีมากจริงๆ ทั้งคอนเสิร์ตมันงดงามมาก แล้วตัวศิลปินเองก็เต็มที่กับพวกเราสุดๆ ไม่ได้แคร์ฟ้าฝนกันเลย ขอจัดให้เป็นการดูคอนเสิร์ตครั้งแรกใน Chicago ที่ดีเริ่ด

 

 

ข้อคิดที่ได้จากวันนี้

-ถ้ารู้ว่าฝนจะตก โปรดใส่รองเท้าแตะมาดูคอนเสิร์ต

-เสื้อกันฝนก็สำคัญนะฮะ พกมาเถอะ

-กินข้าวมาให้อิ่มๆก่อนเข้างาน ถ้าไม่อยากจ่ายค่าอาหารแพงๆ

-จะดูคอนเสิร์ตใน Chicago เรื่องดวงสำคัญมาก เพราะเมืองนี้อากาศแปรปรวนตลอดเวลา ใครเจอแจ็กพ็อทก็สนุกเลยทีนี้

 

ทางไปจองตั๋วคอนเสิร์ต >>> http://www.ticketmaster.com

อยากรู้เรื่องราวในอเมริกา เพิ่มเติมตามมาที่นี่เลยจ้า