เราจะพา เที่ยวมิชิแกน กัน Michigan เป็นรัฐที่อยู่ใกล้ Chicago ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง และที่สำคัญรัฐนี้มีความเป็นธรรมชาติอยู่เยอะมากๆ ยิ่งในช่วงใบไม้ร่วง ต้นไม้ต่างพร้อมใจพากันเปลี่ยนสีทั้งเมืองยิ่งทำให้ Michigan สวยมากขึ้นไปอีก เราเลยเลือกที่จะมา Roadtrip ตั้งเต๊นท์กันที่รัฐนี้
Location : Traverse City State Park Campground, Michigan
ตามแผนการที่วางไว้ พอเราเที่ยวตามจุดท่องเที่ยวที่อยู่รอบๆเมืองแล้ว เราก็เดินทางมาพักกันที่ Traverse City State Park Campground ลักษณะของที่นี่จะเป็นแบบ Camp Ground เน้นการไปตั้งเต๊นท์ ปิคนิค ลองคิดภาพสวนสาธารณะที่มีต้นไม้ใหญ่เต็มไปหมด แล้วก็มีการตีเส้นแบ่งเป็นล็อคไว้ให้เอารถเข้าไปจอด พร้อมกับที่ว่างๆให้กางเต๊น เพื่อนเราจองออนไลน์ล่วงหน้า แล้วก็ปริ๊นใบออกมา ว่าจองได้ล็อคไหน เค้าจะมีแผนที่ให้ ว่าอยู่ตรงโซนไหน เราก็แค่ขับเข้าไปจอดรถตรงนั้น
ตอนรถเลี้ยวเข้าไปจะมีพวกรถ RV จอดอยู่เต็มไปหมด รถ RV ย่อมาจาก Recreational Vehicle เป็นรถขนาดใหญ่ที่ตอบสนองการใช้งานได้เหมือนบ้าน มีห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัวในตัว ที่สำคัญคือมีฮีทเตอร์ หลายๆคนอาจจะไม่เข้าใจว่ามีฮีทเตอร์แล้วดีอย่างไร แต่ถ้าได้ลองมาสัมผัสกับอากาศที่หนาวเหมือนอยู่ในตู้แช่แข็ง จะซึ้งทันที รถ RV จะอำนวยความสะดวกมากๆ เวลาที่เค้าขับไป Roadtrip จากรัฐนั้นไปรัฐนี้ ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งกางเต๊น เก็บเต๊น ตั้งครัว ตั้งเตาจุดถ่าน เวลาที่ไปแคมป์ปิ้งแค่มีรถนี้คันเดียวอยู่ที่ไหนก็รอด คนที่ทำแบบนี้ส่วนใหญ่คือคนอเมริกันวัยเกษียณ ที่มีทั้งเงิน และเวลา เพราะการจะไป Roadtrip แต่ละครั้ง ใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของ Roadtriper แต่ละคน ส่วนรถ RV ของแคมป์นี้จอดเฉยๆ เอาไว้รองรับลูกค้าที่ขับรถธรรมดามา แต่ไม่อยากกางเต๊นท์นอน
หันกลับมามองในส่วนของเรา คือเพื่อนบอกไว้ตั้งแต่ตอนแรกแล้ว ว่าเราจะนอนเต๊นท์กันนะ ไปแคมป์ปิ้งกัน นี่ก็เอาดิ ไม่คิดไร เพื่อนว่าดีเราก็ว่าดี คุณเพื่อนก็เตรียมเต๊นท์มา 2 อัน สำหรับเรา 1 เต๊นท์ และของเพื่อนและแฟนอีก 1 เต๊นท์ นอกจากนั้นยังมีเตาไฟฟ้า และมาม่าเบาๆ เผื่อหิวกลางดึก คิดว่าจะสะดวกสบายเหมือนไปพักที่โรงแรมใช่มั้ย เปล่าเลย ที่นี่ค่อนข้างธรรมชาติมาก ไม่มีเสาไฟให้แสงสว่างอะไรทั้งนั้น มีเสาสำหรับเสียบปลั๊กชาร์ตแบตเตอรี่อยู่ต้นนึงอยู่ใกล้ๆล็อคที่พักของเรา ก็ยังดีวะ และก็มีถังทรงกระบอกที่ฝังอยู่กับพื้นดินสำหรับก่อกองไฟ แต่สิ่งที่ต้องหาคือ ฟืน! อ่ะหือ ไม่คิดว่าจะมาเจออะไรที่เนเชอรัลขนาดนี้ ฟืนก็หาๆเอา กิ่งไม้ที่อยู่ข้างทาง ดีนะเรียนลูกเสือมา ไม่ใช่ละ เพื่อนเนี่ยแหละเป็นคนก่อฟืน ที่ต้องก่อฟืนเพื่อให้ไออุ่นเพราะอากาศหนาวมาก 0 องศาเซลเซียสอ่ะแก๊
พอยิ่งดึกก็ยิ่งมืด คุณเพื่อนเลยรีบต้มมาม่าและกิน ก่อนที่จะมองอะไรไม่เห็น ดีนะว่าสิ่งที่พกมาคือเตาที่เอาไว้ใช้กับแก๊สกระป๋อง เปิดเตาต้มน้ำใส่มาม่าต้มยำลงไปต้ม แล้วซดดด เพื่อนบอกว่ามันฟินมากเลยแก ทั้งเผ็ดและร้อน และทำให้ร่างกายอุ่นขึ้น ส่วนเราไม่ได้กินด้วยเพราะยังอิ่มจากมื้อล่าสุดอยู่ แต่สิ่งที่ทำคือยืนเหม่อและคิดว่า กุจะผ่านคืนนี้ไปได้ยังงัยเนี่ย อากาศเย็นขนาดนี้ มองไปรอบๆก็เจอแต่คนเช่า RV ใช้ชีวิตอยู่กันในรถคันนั้นแหละ เปิดฮีทเตอร์ ชิลเลย บางกรุ๊ปก็มากันเป็นสิบคน เค้าเปิดเพลง จิบเบียร์ ร้องเพลงแล้วก็เต้นรอบกองไฟเลย ดูสนุกสนาน แล้วเราก็ถามเพื่อนว่า
ปลา “แก คืนนี้ชั้นนอนในรถได้มั้ย”
แอม “แกจะหายใจไม่ออกนะ”
ปลา “ก็แง้มกระจกดิ”
แอม “ลมหนาวก็เข้ารถดิ มันก็ไม่มีประโยชน์ป่ะวะ ยังงัยก็หนาวอยู่ดี”
ปลา “แล้วชั้นไปเช่ารถ RV แบบนั้นนอนค้างคืนได้มั้ยอ่ะ”
แอม “ได้ คืนนึงก็ $70 มั้งนะ เต็มแล้วรึเปล่าก็ไม่รุนะ”
ปลา “อ่ะๆ ยอมละ นอนเต๊นท์ก็ได้”
เวลา 3 ทุ่มก็ต้องเข้านอนแล้ว เพราะมันมืดม้ากกกก จะทำกิจกรรมอะไรก็ไม่ได้ ต้องไปอยู่แนวรอบกองไฟเท่านั้น ซึ่งไอ้กองไฟเนี่ยมันก็อุ่นดี แต่ควันมันเหลือเกินจริงๆ หายใจไม่ออก อยากจะนั่งดูดาวก็ไม่ได้ เพราะคืนนั้นมีหิมะตกเบาๆ ท้องฟ้าไม่เปิด งั้นเราเลยตกลงกันว่านอนเถอะ พรุ่งนี้จะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น เพื่อนให้เราไปลองนอนก่อน นี่ถึงขนาดใส่เสื้อโค้ทนอนด้วย แล้วเราก็พบว่ามันหนาวเกินไป เพื่อนทั้งสองเลยย้ายมานอนเต๊นท์เดียวกันกับเรา นอนไปซักพัก มันไม่หลับ ไม่ง่วง และหนาวอะไรขนาดนี้ เพื่อนถามว่าไหวมั้ย นี่เลยบอกว่าไม่อ่ะแก เพื่อนเลยหันมานอนกอดเราเลย ก็ดีขึ้นนะได้ไออุ่น ซึ่งวิธีการนอนที่ถูกคือต้องมีถุงนอนคนละ 1 ถุง และรูดซิปให้มิดที่สุด อย่าให้ลมเข้า แต่คือเราเอาไปแค่ผ้าห่มนวมที่ขนมาจากบ้าน ก็ช่วยได้ประมาณนึงแต่ไม่เพียงพอที่จะให้มันผ่านคืนอันหนาวเหน็บไปได้
คืนนั้นทั้งคืน นอนหลับๆตื่นๆตลอด มันหนาวทรมานมาก เท้าก็เย็นเจี๊ยบ นอนขดจนตัวกลมดิ๊กก็ยังไม่หายหนาว และแล้วสวรรค์ก็เป็นตา เช้าซักที มองจากเต๊นท์แล้วเห็นแสงรำไร รีบลุกขึ้นมาเลย พร้อมทั้งปลุกคุณเพื่อน และเราก็รูดซิปเต๊นท์ มุดออกไปสูดอากาศธรรมชาติข้างนอก
พอฟ้าสว่างแล้ว อะไรๆก็ชัดขึ้น ต้นไม้ที่เห็นมืดๆเมื่อวาน มาวันนี้มันเป็นกลายเป็นสีเหลือง สีส้ม สีแดง สวยสุดๆ สดชื่นมาก ณ จุดๆนั้นคือสบตากับเพื่อนแล้วก็คิดเหมือนกันว่า Mission Complete ใบไม้แดงที่เฝ้าตามหาในที่สุดเราก็เจอ เรากะเพื่อนก็เดินหามุมสวยๆกันจนทั่ว ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ จนเจอโซนที่มีใบไม้สีแดงร่วงเต็มพื้นเหมือนปูพรม มันเก๋ดีจริงๆ กดชัตเตอร์กันรัวๆเลยทีนี้ ที่เคยไปภูกระดึงเจอใบเมเปิ้ลสีแดงอยู่ 5 ใบก็ตื่นเต้นละ พอมาที่นี่แล้วเจอใบไม้แดงเยอะขนาดนี้ คงไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆแล้วล่ะ
ทริปนี้ตั้งใจว่าจะมาตามล่าหาใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งระหว่างทางที่มาก็พบว่าเรามาเร็วไปนิดนึง ถ้ามาหลังจากนี้สัก 2 อาทิตย์ ภาพทั้งเมืองน่าจะสวยกว่านี้ แต่พอเราเจอสีสันของต้นไม้ที่แคมป์นี้ก็ฟินไปเลย ถือว่าภารกิจครั้งนี้สำเร็จ ส่วนเรื่องประสบการณ์แคมป์ปิ้งนั้น เราได้แต่บอกเพื่อนว่า รอบหน้าไม่ต้องชวนแล้วนะ
ถ้าอยากมาเจอใบไม้เปลี่ยนสี แนะนำให้มาเที่ยวช่วงเดือนตุลาคม
อ่านเรื่องราวสถานที่ เที่ยวมิชิแกน >>> ตามหาใบไม้เปลียนสีที่มิชิแกน
ทางไปจองที่พัก >>> https://www.midnrreservations.com/TraverseCityStatePark
ทางไปจองรถ RV >>> https://rvshare.com/
ถ้าอยากรู้ เรื่องราวในอเมริกา เพิ่มเติม มาดูได้ที่นี่เลยจ้า