รัฐโคโลราโดนอกจากจะเป็นรัฐที่ขึ้นชื่อในเรื่องธรรมชาติอันสวยงาม และลานสกีขนาดใหญ่ที่คนทั่วโลกต่างหลั่งไหลมาเล่นกันที่นี่แล้ว การใช้กัญชาในรัฐโคโรลาโด อย่างเสรี ก็เป็นอีกเรื่องที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดีมาก ซึ่งโคโลราโดยังเป็นรัฐที่สามารถใช้กัญชาได้อย่างถูกกฎหมายแห่งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
การให้เสรีในการใช้กัญชาในพื้นที่นี้นั้น ถ้าปล่อยให้ใช้โดยไม่มีการควบคุมใด ๆ เลย ก็ต้องส่งผลเสียแน่นอนอยู่แล้ว แต่ที่นี่เค้ามีสิ่งที่เรียกว่า Colorado Amendment 64 หรือ การแก้กฏหมายโคโลราโด มาตรา 64 เกี่ยวกับการใช้กัญชา คอยควบคุมดูแลให้ทุกอย่างอยู่ในกรอบ เป็นระเบียบเรียบร้อย กฎหมายนี้ได้ประกาศใช้อย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2014 โดยการเปิดโหวตจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับการใช้กัญชาโดยการลงคะแนนเสียงเป็นที่แรกของโลกเลยก็ว่าได้
นอกจากนั้นแล้ว ในเดือน 4 วันที่ 20 ของทุกปี จะเป็นวันกัญชาโลกหรือ Weed Day โดยที่เค้าจะใช้รหัส 420 ที่รู้กันในหมู่คนผู้ใช้กัญชา มารวมตัวกันปาร์ตี้กัญชากันได้อย่างเปิดเผยในเวลา 4 โมงเย็น 20 นาที อ่านที่มาของรหัส 420 เพิ่มเติมที่นี่จ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐโคโรลาโดด้วยแล้ว เป็นช่วงเวลาแห่งเทศกาลกัญชากันเลยทีเดียว มีงานเฉลิมฉลองจัดขึ้นมากมายทั่วเมืองเดนเวอร์ ดูข้อมูลเพิ่มได้ว่าเยอะขนาดไหนที่นี่ได้เลยค่ะ
กัญชา เป็นพืชที่ล้มลุกชนิดหนึ่ง หลายคนอาจจะรู้จักกัญชาในแง่ของสารเสพย์ติด แต่ในปัจจุบันหลาย ๆ ประเทศทั่วโลกจัดให้พืชชนิดนี้อยู่ในประเภทสมุนไพร มีการนำสรรพคุณทางการแพทย์ของกัญชาไปศึกษาพัฒนาเพื่อใช้เป็นยารักษาโรค อย่างเช่น โรคลมชัก โรคพาร์กินสัน โรคมะเร็ง และได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ อ่านเพิ่มเติมที่นี่
การใช้กัญชาได้อย่างถูกกฎหมายนั้นแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ
1.การใช้กัญชาเพื่อทางการแพทย์
2.การใช้กัญชาเพื่อการ Recreation หรือการใช้เพื่อการผ่อนคลาย
กฎหมายควบคุม การใช้กัญชาในรัฐโคโรลาโด
การครอบครอง
คนที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปี ขึ้นไป สามารถมีกัญชาในครอบครองโดยวัดค่าจากปริมาณของสาร THC ไม่เกิน 1 ออนซ์ ถึงคุณจะเป็นแค่นักท่องเที่ยวไม่ใช่คนในพื้นที่ ก็สามารถมีกัญชาได้โดยไม่ผิดกฎหมาย เพียงแค่แสดงหลักฐานอย่างบัตรประชาชน ใบขับขี่ หรือพาสปอร์ตที่บ่งบอกว่าอายุถึงเกณฑ์ก็เพียงพอแล้ว
การจำกัดการซื้อ
เวลาในการซื้อขายของร้านค้า
ปัจจุบันกฎหมายของรัฐ อนุญาติให้ร้านค้าสามารถเปิดร้าน ทำการซื้อขายได้ตั้งแต่เวลา 8 โมงเช้าจนถึงเที่ยงคืนเท่านั้น ซึ่งก็เปิดโอกาสให้ร้านค้าในบางพื้นที่มีการเลือกเวลาในการเปิดปิดกันได้ และเป็นไปตามข้อบังคับของแต่ละเมืองที่ไม่เหมือนกันด้วย อย่างในเมือง Denver ทุกร้านจะต้องปิดภายในเวลา 10 pm หรือสี่ทุ่ม แต่ถ้าคุณต้องการซื้อกัญชาหลังเวลานั้น ก็ต้องไปซื้อที่เมืองอื่น เช่น Edgewater และ Glendale ที่อยู่ใกล้เคียงแทน
การใช้กัญชา
เมื่อคุณมาถึงโคโลราโด มีกัญชาในมือแล้ว แล้วจะไปสูบได้ที่ไหนล่ะ ตามกฎข้อที่ 64 บอกไว้ว่าไม่ให้บริโภคหรือสูบกัญชาในที่โล่งแจ้งและที่สาธารณะ เพราะฉะนั้นถ้าคิดจะเดินสูบกันกลางถนนล่ะก็ ระวังโดนใบสั่งนะจ๊ะ
เดี๋ยวนี้เค้ามีคลับส่วนตัวสำหรับการสูบกัญชาแล้ว เก๋ไปอีก เปิดให้เฉพาะผู้ใหญ่ที่อายุถึงเกณฑ์เท่านั้น เอาไว้รองรับทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเมืองสายเขียวทั้งหลาย แถมยังเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยและถูกกฎหมายด้วย
ถึงแม้ว่าในงานคอนเสิร์ตและในบาร์จะเป็นสถานที่ที่มีการถกเถียงกันว่าเป็นสถานที่ส่วนตัวหรือสาธารณะ การสูบกัญชาในที่เหล่านั้นก็ยังคงมีความเสี่ยง ถ้าตำรวจมาเจอหรือมีคนฟ้องก็อาจโดนใบสั่งได้อีกเช่นกัน
แนะนำว่าให้ใช้ portable vaporizer หรือที่สูบกัญชาแบบไฟฟ้าจะดีที่สุด เป็นอุปกรณ์ยอดฮิตในโคโรลาโดเลย เพราะมันไม่กลิ่นเล็ดลอดออกมาและสามารถใช้งานที่ไหนก็ได้
(ปล. ตอนที่เราไปไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติ หรือถนนในเมือง เราก็ได้กลิ่นเขียวๆ ลอยมาตลอดเลยล่ะ สุดท้ายก็คงเป็นแนว Catch me if you can)
ภาพวิวสวยๆ จากลานสกีในโคโรลาโด ไว้จะมาเล่าเพิ่มค่า
การขับรถในช่วงที่กัญชาออกฤทธิ์
กฎหมายบอกไว้ว่า ไม่ควรมีสาร THC ในเลือดเกิน 5 นาโนกรัมต่อปริมาณเลือด 1 มิลลิลิตร อย่างไรก็ตามค่านี้ไม่สามารถตัดสินได้แน่นอนว่า ฤทธิ์ของกัญชาปริมาณนั้นจะมีผลกระทบต่อคนในแบบเดียวกันทุกคน เพราะมันก็ขึ้นอยู่กับขนาดของร่างกาย และปริมาณการเผาผลาญพลังงานของแต่ละคนด้วย
ทางที่ปลอดภัยกว่าก็คือ ไม่ควรขับรถขณะที่กัญชาออกฤทธิ์ ถึงแม้ว่าในรถของคุณจะไม่ได้มีกลิ่นเหมือนสกั๊ง และตาของคุณก็ไม่ได้แดงก่ำ แต่ถ้าโดนสุ่มตรวจขึ้นมาก็อาจต้องไปทำการทดสอบผลเลือดเหมือนกับที่คุณต้องเป่าแอลกอฮอล์นั่นแหละ ถ้าคุณปฏิเสธการตรวจก็มีสิทธิ์โดนคำสั่งเช่นกัน
การไปเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ความผิดของคุณก็มีให้เห็นอยู่เป็นประจำ ทางที่ดีคือหลีกเลี่ยงดีกว่า
การเดินทางโดยมีกัญชาไปด้วย
การมีกัญชาในครอบครองขณะเดินทาง ตัวกัญชานั้นต้องไม่อยู่ในส่วนของห้องผู้โดยสารเลย และบรรจุภัณฑ์ของกัญชาต้องไม่มีรอยของการเปิดใช้โดยเด็ดขาด หากกล่องที่ใช้เก็บกัญชามีการชำรุดเสียหาย หรือเห็นว่ามีร่องรอยของการสูบกัญชาแล้วล่ะก็ เป็นเรื่องแน่นอน คุณอาจจะโดนปรับและมีบันทึกในประวัติว่าเคยพกสารเสพย์ติด ซึ่งไม่เป็นผลดีกับคุณหรอก
การนำกัญชาออกนอกเขตรัฐ
อย่าทำเลยจะดีกว่า ทางกองควบคุมจับตาดูคนที่เข้าออกรัฐโคโรลาโดอย่างใกล้ชิด พอได้ลองใช้กัญชาที่นี่ก็คงอดไม่ได้ที่จะเอากัญชากลับไปในรัฐที่ตัวเองอยู่ หรือเอากลับประเทศตัวเองเพื่อใช้ผ่อนคลายอารมณ์บ้าง แต่การทำเช่นนั้นอาจส่งผลเสียมากกว่าที่คิดก็เป็นได้ (เคยคิดจะลองเหมือนกัน สนใจพวกช็อกโกแลต เยลลี่ อะไรพวกนี้ แต่เพื่อนห้ามไว้ บอกว่าอย่าหาเรื่องใส่ตัวน่า)
ในรัฐที่อยู่ติดเขตโคโรลาโด จะมีตำรวจตรวจเข้มมากเพราะเค้าไม่พอใจที่รัฐของตัวเองไม่มีกฎอนุญาติให้ใช้กัญชาได้อย่างถูกกฎหมายบ้าง เค้าก็เลยจะถามคำถามเยอะ และขอตรวจค้นสิ่งของในรถบ่อยๆ
การสั่งกัญชาให้ส่งผ่านไปรษณีย์ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเช่นกัน ในปี 2014 มีกัญชาที่แพ็คมาถูกจับได้กว่า 320 ชิ้น มีแค่ 15 ชิ้นเท่านั้นที่ถึงมือผู้รับ จะปลอดภัยกว่าถ้าไม่อยากโดนปรับหนักและติดคุก
การถือครองกัญชาในพื้นที่ราชการและพื้นที่หลวง
ระวังไว้ด้วยว่าการมีกัญชาในครอบครองบนพื้นที่โคโรลาโด ไม่ใช่ทุกที่ที่จะทำได้ มีข้อห้ามในหลายพื้นที่ อย่างเช่นใน ป่าอนุรักษ์ อุทยานแห่งชาติ ลานสกี และพื้นที่ราชการอย่าง ศาล เป็นต้น การมีกัญชาในที่เหล่านั้นอาจถูกลงโทษให้ติดคุกได้
การปลูกกัญชา
กฎหมายระบุให้คนที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไป สามารถปลูกกัญชาได้ไม่เกิน 6 ต้น และ 3 ต้นในจำนวนนั้นสามารถอยู่ในระยะออกดอกและต้องอยู่ในสถานที่ปิด เพื่อไม่ให้กลิ่นหรือสารระเหยออกไปรบกวนผู้อื่น เค้าซีเรียสในเรื่องความเข้มข้นของสาร THC ที่มีอยู่ในปริมาณที่แตกต่างกันไปตามส่วนต่างๆ ของต้นกัญชานั่นเอง
ข้อมูลกัญชาที่ได้อ้างอิงมาจากเว็บไซต์นี้ค่ะ สนใจอ่านข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
พื้นที่ที่สามารถใช้กัญชาได้อย่างถูกกฎหมายในอเมริกา
- พื้นที่ที่เป็นสีเขียวเข้ม อนุญาติให้ใช้กัญชาได้ทุกประเภทอย่างถูกกฎหมาย
- พื้นที่สีเขียว อนุญาติให้ใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น
- พื้นที่สีเขียวอ่อน อนุญาติให้ใช้ในทางการแพทย์แบบจำกัดปริมาณสาร THC
- พื้นที่สีเทา ไม่อนุญาติให้ใช้กัญชาไม่ว่าจะกรณีใดๆ ก็ตาม
จะเห็นได้ว่าขนาดในแต่ละรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกาก็ยังมีกฎหมายควบคุมที่แตกต่างกันออกไป
คลิปวิดีโอข้อมูลการใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมายในรัฐโคโลราโด
ผลจากการใช้กัญชาเพื่อการผ่อนคลาย
ปลาได้ลองกัญชาครั้งแรกจากที่นี่ล่ะค่ะ ตอนที่ปลาได้ไปเที่ยวที่โคโลราโด ตั้งแต่เหยียบถึงพื้นดินรัฐนี้ก็ได้กลิ่นเขียวๆ จางๆ อยู่ตลอดเวลา พอได้ไปแวะบ้านเพื่อนที่เป็นคนที่นั่น เค้าชื่นชอบการทดลองกัญชามาก มีทั้งอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์จากกัญชาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกัญชาสดก้อนเล็กๆ เท่าลูกแก้ว เตาเผาสำหรับจุดกัญชาที่มีหน้าตาคล้ายเตาอโรม่า ไปป์สูบกัญชา และเด็ดสุด คือ ช็อคโกแลตแท่ง ที่เป็นขนมทานได้ง่ายๆ
ปลาลองไอ้เจ้าช็อคโกแลตเนี่ยล่ะ แค่ชิ้นเล็กๆ ก็ทำเอาเรามึนได้ ประมาณชั่วโมงก็ออกอาการ รู้สึกงงๆ ลอยๆ คิดอะไรไม่ออก เห็นถนนเป็นเส้นโค้งไปหมด (เพื่อนที่ไปด้วยกันเป็นคนขับรถค่ะ) พอกลับถึงที่พักเราพยายามจะล้างหน้าแบบผู้หญิงตามสเต็ป ด้วยการเอาสำลีชุบคลีนซิ่งแล้วเช็ดเครื่องสำอางออก จากนั้นค่อยถูสบู่และล้างน้ำเปล่า เชื่อป่ะว่า เรายืนงงอยู่นานมาก ก็มันทำไม่ได้อ่ะ คิดไม่ออก เลยคิดได้ว่าไปนอนดีกว่า จำได้ว่าคืนนั้นหลับสบายมาก เช้ามาก็สดชื่นมากเลย ยังนั่งขำตัวเองเมื่อคืนว่าเป็นไปได้ขนาดนั้นเลยเนอะฃ
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เข้าใจได้ว่า ถ้าเราใช้กัญชาและกำลังอยู่ในช่วงที่กัญชาออกฤทธิ์ แล้วดันไปขับรถเนี่ย รับรองว่าเปอร์เซ็นต์การเกิดอุบัติเหตุจะต้องสูงมาก เหมือนเวลาที่เราดื่มเหล้าหนักและมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเยอะนั่นล่ะ และสมมุติว่าเราดันอยู่ในที่ทำงานที่ต้องการสมาธิสูง หรือกำลังใช้เครื่องจักร ก็อาจทำให้เกิดอันตรายกับทั้งตัวเองและผู้อื่นได้เช่นกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมกัญชาจึงยังเป็นพืชต้องห้ามในหลาย ๆ พื้นที่บนโลก รวมไปถึงประเทศไทยด้วย
สรุป
จะเห็นได้ว่าการที่รัฐโคโลราโดให้เสรีในการใช้กัญชานั้น ทำให้มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และใช้กันอย่างแพร่หลาย มีการนำกัญชาไปศึกษาวิจัยและพัฒนาทางด้านการแพทย์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ ในการนำกัญชาไปช่วยลดความเจ็บป่วย ยืดอายุของผู้ป่วยให้มีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น และช่วยให้คนทั่วไปมีความสุขกันมากขึ้น
ซึ่งสิ่งที่จะทำให้พืชพิเศษตัวนี้มีความปลอดภัยในการนำมาใช้นั้น อย่างแรกที่ต้องมีก็คือ กฎหมายควบคุมการใช้อย่างเคร่งครัดตามที่ได้เล่ามาในข้างต้น อย่างที่สองคือการให้ความรู้กับคนอย่างละเอียดก่อน ที่บางรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกายังเป็นเรื่องผิดกฎหมายและมีการห้ามใช้ ก็อาจเป็นเพราะพวกเค้าคิดว่าคนในรัฐของเค้ายังไม่ได้รับการให้ข้อมูลที่ดี หากมีคนนำไปใช้ในปริมาณที่เกินกำหนดหรือผิดวิธีก็ย่อมจะส่งผลเสียในหลายๆ ด้านด้วยเช่นกัน
เห็นว่าในเมืองไทยกำลังผลักดันให้มีการใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งหลักๆ จะเป็นการนำไปใช้ในทางการแพทย์ก่อน เพราะพืชชนิดนี้มีประโยชน์มาก เมื่อนำไปใช้อย่างถูกวิธี และการที่เรามีความรู้ที่ถูกต้องเหมาะสมก็ย่อมนำมาซึ่งประโยชน์มากมายที่จะเกิดกับสังคมต่อไป